วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บทที่11 การยศาสตร์ Ergonomics

ความหมาย : กฏของงานซึ่งเป็นศาสตร์หรือวิชาการที่เป็นการปรับเปลี่ยนสภาพงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานหรือเป็นการปรับปรุงสภาพการทำงาน

มาตรฐานและการออกแบบสถานีงานที่ใช้คอมพิวเตอร์

  ท่าทางที่สามารถก่อให้เกิดอันตราย ได้แก่ การโน้มตัวไปข้างหน้า การยืดแขนมากเกินไป การนั่งเก้าอี้ต่ำหรือสูงเกินไป

   การวัดสัดส่วนร่างกายสำหรับการออกแบบสถานีทำงานการออกแบบสถานีงานต้องพิจารณาจากสัดส่วนร่างกายของผู้ปฏิบัติงาน

1.ความสูงจากระดับสะโพกขณะนั่ง

2.ความสูงจากระดับเท้าขณะนั่ง

3.ความยาวขากก้นขณะนั่ง

4.ความกว้างของสะโพกในขณะที่นั่ง

การจัดสุขภาวะให้เหมาะแก่การทำงาน

1.เมื่ออยู่ในท่าทำงานสามารถตั้งศีรษะได้ตรง

2.สายตามองไปด้านหน้าได้สะดวก จอภาพอยู่ต่ำเล็กน้อยกว่าระดับสายตา

3.กล้ามเนื้อไหล่ผ่อนคลาย

4.มือทั้งสองข้างอยู่ในแนวเดียวกันกับแขน

5.หลังตั้งตรงพอดีกับที่พักหลัง

6.เอกสารอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการมอง

7.เท้าทั้งสองข้างสามารถวางได้พอดี

การจัดแสงสว่างในการทำงาน

1.ความสว่างเหมาะสมกับลักษณะงาน

2.การเลือกชนิดของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น หลอดไฟ

3.ค่าการสะท้อนแสงเหมาะกับการทำงาน เช่น เพดาน (70-80%)

4.ปรับตำแหน่งของจอภาพให้อยู่ในแนวขนาน

5.อัตราส่วนระหว่างระยะห่างของโคมไฟ

6.การใช้อุปกรณ์เสริม เช่น แผ่นกรองแสง

ปัญหาสุขภาพ : ความผิดปกติของผิวตา เกิดจากแสงสว่างที่มากหรือน้อยเกินไป , การปรับโฟกัส เกิดได้จากขนาดของตัวหนังสือ , การจัดวางคอมพิวเตอร์ เช่น ระยะห่างตากับจอภาพ

แนวทางการแก้ไข :

1.สถานที่ทำงาน (ควรใช้จอแบบเพื่อลดการสะท้อนแสง , ปรับความสว่างและตวามแตกต่างของสี , เลือกใช้ตัวอักษรเข้มบนพื้นจอสีอ่อน , จัดจอภาพให้มีระยะห่างจากตาประมาณ60 ซ.ม , โต๊ะควรสูงพอสำหรับมีที่ว่างให้เข่าไม่ติดโต๊ะ , เก้าอี้ควรมีที่หนุนหลัง)

2.แสงสว่างไม่ควรอยู่ด้านหน้าและด้านหลังควรอยู่ด้านข้างจอภาพ

3.การพักสายตา ควรพักสายตาเป็นระยะๆ ทุก1ชม.ควรหยุดทำงานและลุกขึ้นเดิน

4.การปรับพฤติกรรมการใช้สายตา(การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา , ใช้การประคบด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น , ควรบริหารกล้ามเนื้อตาอย่างต่อเนื่อง)

5.การใช้น้ำตาเทียม เพื่อป้องกันเยื่อบุตาแห้ง


ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อเรื้อรัง

1.ท่านั่งทำงานไม่เหมาะสม

2.กล้ามเนื้อมีการทำงานมากเกินไป

3.ขาดการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง

โรคปวดหลังส่วนกลาง แนวทางแก้ไข : จัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม , ยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง

เคล็ดลับป้องกันโรคจากคอมพิวเตอร์

การปรับแต่งสภาพแวดล้อม

 1.คีย์บอร์ด ตรวจสอบว่าคีย์บอร์ดของคุณว่าอยู่ในระดับที่แขนเหมาะสมหรือเปล่า  ต้องมั่นใจว่าข้อศอกอยู่ในมุมที่เปิด90องศา  ตำแหน่งที่นั่งต้องอยู่ตรงกลางคีย์บอร์ด

2.จอคอมพิวเตอร์ หมั่นทำความสะอาดจอภาพ  ควรปรับแสงสว่างจอภาพให้พอดี  ปรับหน้าจอให้แหงนขึ้นเรียบร้อย พยายามอย่าจ้องหน้าจอนานๆ

3.เก้าอี้ เบาะเก้าอี้ไม่ควรแหงนขึ้น เก้าอี้ควรปรับระดับความสูงไม่ควรนั่งงอตัว

4.แสง โคมไฟบนโต๊ะทำงานควรใช้แสงสีขาว  หลอดไฟควรมีแสงสว่างในโทนเดียวกัน  จะดีมากถ้าตำแหน่งของแสงสามารถปรับขึ้นลงได้

บทที่10 ความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์

ความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์

   เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและตรวจสอบการเข้าใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต

องค์ประกอบของความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ  : มี3ประการ

1.ความลับ(Confidentiality) คือ การรับรองว่าจะมีการเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ และผู้มีสิทธิ์เท่านั้นจึงจะเข้าถึงข้อมูลนั้นได้

2.ความถูกต้องสมบูรณ์(Integrity) คือ มาตรการควบคุมความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศต้องมีกลไกการตรวจสอบสิทธิ์

3.ความพร้อมใช้งาน(Availability) คือ การทำให้สารสนเทศสามารถตอบสนองระบบได้เมื่อต้องการ
ภัยคุกคาม คือ สาเหตุของสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบคอมพิวเตอร์และเป็นอุปสรรคในการให้บริการ

ช่องโหว่ คือ จุดอ่อนของทรัพย์สินที่ถูกภัยคุกคามใช้เป็นช่องทางในการโจมตี เช่น ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ

ภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน

- การหลอกว่ามาดี แต่จริงๆมาร้าย เช่น หลอกให้โอนเงินช่วยเหลือ
- ส่ง URL Ling เพื่อให้ผู้รับคลิกเข้าไประหว่างนั้นก็มีการแอบดักเอาข้อมูลส่วนตัวไป
- ถูกสวมรอยกันง่ายๆเพียงเล่นเฟซบุค เช่น เราได้ล็อคอินค้างไว้
- หลอกให้คลิกแต่แอบซ่อนมีดไว้รอเชือด
- บอกเพื่อนว่าเราอยู่ไหน เสมือนหนึ่งว่าเราได้บอกโจร
- ระวังข้อมูลส่วนตัวหลุดรั่วขณะเล่นFacebookเพลินๆ

โปรแกรมประสงค์ร้าย

- มัลแวร์ คือ ซอฟต์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแอบเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่อนุญาต
- ไวรัส เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถสำเนาของตัวเองเพื่อแพร่ออกไป
- หนอน มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดกระจายตัวได้เร็ว
- ม้าโทรจัน คือ โปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง
- สปายแวร์ คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บันทึกการกระทำของผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์ และแอบดักข้อมูล

โปรแกรมป้องกันและกำจัดการคุกคาม

- แอนติไวรัส จะค้นหาและทำลายไวรัสในคอมพิวเตอร์ของเรา
- แอนติสปายแวร์ เป็นโปรแกรมป้องกันการโจรกรรมข้อมูลจากสปายแวร์และแฮ็คเกอร์
เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย

ไฟร์วอลล์ : คือ ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในระบบเครือข่าย เป็นตัวกรองข้อมูลสื่อสารระหว่างเขตที่เชื่อถือต่างกัน

ความต้องการของเทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล: การรักษาความลับ การระบุตัวบุคคลได้ การรักษาความถูกต้องสมบูรณ์ การป้องกันการปฏิเสธความรับผิดชอบ

1.ระบบเข้ารหัสแบบกุญแจสมมาตร คือ การเข้ารหัสข้อมูลด้วยกุญแจเดี่ยว
ข้อดี: การเข้ารหัสและถอดรหัสใช้เวลาน้อย

2.ระบบเข้ารหัสแบบกุญแจอสมมาตร ใช้หลักกุญแจคู่เข้ารหัสและถอดรหัส โดยกุญแจคู่จะประกอบด้วยกุญแจส่วนตัวและกุญแจสาธารณะ

ข้อดี: การจัดการกับกุญแจทำได้ง่ายเพราะไม่ต้องจำเลยว่าได้ใช้กุญแจคู่ไหนกับใคร
คำแนะนำในการเลือกรหัสผ่านที่ดี: ใช้คำมากกว่า1คำเลือกใช้คำ2คำรวมกันเป็นรหัสผ่าน  ใช้สัญลักษณ์แทนตัวอักษรเช่น 1Ronal309 เป็นต้น  เลือกรหัสผ่านให้ผูกกับเหตุการณ์  ให้ใช้รหัสผ่านที่ยาวที่สุดเท่าที่ทำได้

สิ่งที่ไม่ควรทำในรหัสผ่าน: ไม่ใช้ข้อมูลส่วนตัว  ไม่ใช้รหัสผ่านที่ผูกกับเดือนปฏิทินเช่น Mayday เป็นต้น


บทที่9 กูเกิ้ลแอพพลิเคชั่น Google Application

Google Apps

          Google Apps คือ แอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Google เพื่อให้บริการทางด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร
      กูเกิ้ลแอพเป็นอีกระบบการที่ทางกูเกิ้ลได้จัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถที่จะทำงานหรือปรับปรุงข้อมูลต่างๆได้ เช่น การจัดการด้านเอกสาร จัดตารางเวลา การจัดสร้างเว็บเป็นต้น

1.กูเกิ้ลเมล(http://www.gmail.com) เป็นบริการหลักที่จะต้องมีหากเราต้องการใช้บริการอย่างอื่นของกูเกิ้ล เพราะข้อกำหนดหลักคือ จะใช้อีเมลของกูเกิ้ลในการเข้าใช้บริการอื่นๆทั้งหมด ดังนั้นควรจะต้องทำการสมัครใช้บริการของกูเกิ้ลก่อนเป็นอันดับแรก

2.แผนที่ (Google map) คือ การบอกเส้นทางให้แก่ผู้ใช้ เบื้องต้นว่าจะสามารถเดินทางไปถึงปลายทางได้อย่างไร การแสดงผลของกูเกิ้ลมี 2 แบบคือ แบบแผนที่และมุมมองแบบดาวเทียม

3.ปฏิทิน(Calendar) เป็นบริการจัดตารางนัดหมายประจำวัน ผู้ใช้สามารถที่จะกำหนดวัน เวลานัดหมายผ่านบริการนี้ นอกจากนี้ยังสามารถที่จะแลกเปลี่ยน(Share)ตารางนัดหมายกับบุคคลอื่นได้

4.กูเกิ้ลดอคคิวเมนท์(Google Document) เป็นโปรแกรมจัดการด้านเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสาร นำเสนอ ตารางคำนวณ เป็นต้น

5.กูเกิ้ลพลัส(google+) เป็นบริการใหม่มีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างขึ้นมาให้เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อแข่งขันกับเฟซบุค

6.บริการอื่นๆของกูเกิ้ล
    -ไซต์ เป็นบริการที่ให้ผู้ใช้มีหน้าเว็บเป็นของตัวเอง
    -กูเกิ้ลกรุ๊ป บริการให้มีการสร้างกลุ่มความสนใจหรือกลุ่มเพื่อนร่วมงาน
    -ยูทูบ เป็นบริการให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดไฟล์ประเภทวีดีโอขึ้นแสดงบนอินเทอร์เน็ต
    -สกอลาร์ เป็นเว็บไซต์ให้บริการค้นหาบทความงานวิจัย

บทที่8 เครือข่ายสังคมออนไลน์ Social Network

ความเป็นมาของเครือข่ายสังคมออนไลน์

    นิยมเรียกว่า Social Network เกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยีและเว็บรูปแบบใหม่นั่นคือ Web 2.0 เน้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ลงบนเว็บไซต์ร่วมกัน และสามารถโต้ตอบกับข้อมูลที่มีอยู่บนเว็บไซต์ได้ เมื่อมีการพัฒนาต่อเพื่อก้าวไปสู่ยุคที่3 Web 3.0 ยิ่งทำให้กระแสเติบโตขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เครือข่ายสังคมออนไลน์ มีจุดเริ่มต้นจากเว็บไซต์Classmates.com ในปี1995 และเว็บไซต์ SixDegrees.com ในปี1997 ที่ได้รับการนิยมในปัจจุบัน เช่น Facebook Twitter YouTube เป็นต้น

ความหมาย : ระบบเครือข่ายบนโลกออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารถึงกันผ่านอินเทอร์เน็ต สรุปหมายถึง การสื่อสาร สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลอาจจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง วีดีโอ หรือเล่นเกมส์ ผ่านระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันบนโลกอินเทอร์เน็ต

ประเภทของเครือข่ายสังคมออนไลน์ มี 6 ประเภท

1.ประเภทแหล่งข้อมูลหรือความรู้ เช่น Wikipedia

2.ประเภทเกมส์ออนไลน์ เช่น Audition

3.ประเภทสร้างเครือข่ายสังคม เช่น Facebook

4.ประเภทฝากภาพ เช่น Flickr

5.ประเภทสื่อ เช่น Youtube

6.ประเภทซื้อขาย เช่น Amazon

เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์

1.www.hi5.com เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้บริการมาฝากProfileของตนเองคล้ายกับ Blog Hi5ยังมีส่วนจัดการกับพื้นหลังแบ็กกราวด์ที่สามารถตกแต่งเลือกลวดลาย รูปและดาวน์โหลดได้ตามเว็บไซต์ต่างๆ

2.www.Facebook.com มาร์ก เอลเลียตซักเคอร์เบิร์กผู้ก่อตั้งเว็บชุมชนออนไลน์เฟสบุ๊ค เปิดตัวเมื่อวันที่4กุมภาพันธ์2004 นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บที่ผู้ใช้ Upload รูปขึ้นไปเก็บไว้มากเป็นอันดับหนึ่ง

3.www.myspace.com ให้บริการทำเว็บส่วนตัว บล็อก การเก็บ ภาพ วีดีโอ ดนตรีและเชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มคนอื่นก่อตั้งเมื่อเดือนส.ค.2546

4.http//twitter.com เป็นบริการจำพวกไมโครบล็อก โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน140ตัวอักษร

5.http//plus.google.com ให้บริการโดยกูเกิ้ลใช้งานครั้งแรก 28 มิ.ย.2554 ปัจจุบันได้มีการรองรับการทำงานผ่านเว็บเบราซ์เซอร์แอพพลิเคชั่นของแอนดรอยด์



ผลกระทบทางสังคมในปัจจุบัน

ผลกระทบเชิงบวก

1.เป็นสื่อในการนำเสนอผลงานของตัวเอง

2.เป็นสื่อที่ใช้ในการแบ่งปันข้อมูล รูปภาพ ความรู้ให้กับผู้อื่น สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้

3.เป็นเครื่องมือช่วยในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถสื่อสารได้หลายรูปแบบ

4.เป็นสื่อในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์

5.ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ด้วยช่องที่สะดวกและรวดเร็ว

ผลกระทบเชิงลบ

1.เป็นช่องทางที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้างได้ง่าย

2. หากใช้หมกมุ่นกับการเข้าร่วมเครือขายสังคมออนไลน์มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

3.เป็นช่องทางที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์กระแสสังคมในเรื่องเชิงลบ และอาจทำให้เกิดกรณีพิพาทบานปลาย

4.ภัยคุกคามจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ


บทที่7 เว็บแอพพลิเคชั่น

1.การสืบค้น ค้นคว้าหาข้อมูล(Serach engine) 

     ความหมายของ Serach engine หรือโปรแกรมค้นหา คือ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

Serach engine มีการเก็บรายชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆของเว็บไซต์และนำมาจัดเก็บไว้ใน Server เพื่อให้สามารถค้นหาและแสดงผลได้สะดวก เช่นYahoo.com  Google.com เป็นต้น

ประเภท Serach engine : มี3ประเภท

1.Keyword Index การค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในเว็บเพจที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้วให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อนหลัง การค้นหาข้อมูลโดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย

2.Subject Directory หรือ WebDirectory คือ สารบัญเว็บไซต์ที่ให้สามารถค้นหาข่าวสารข้อมูลด้วยหมวดหมู่ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป

3.Metasearch engine ใช้หลักการในการค้นหาโดยอาศัย Meta Tag ในภาษาHTMLและยังสามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ เพื่อเรียกดูข้อมูลที่ Search Engine อื่นๆ ค้นพบ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษรและมักจะไม่ค้นหาคำประเภท Natural Language (ภาษาพูด)  

หลักการในการค้นหาข้อมูลของ Serach engine: การค้นหาจากชื่อของตำแหน่งURLในเว็บไซต์ต่างๆ,การค้นหาจากคำที่มีอยู่ในTitle,การค้นหาจากคำสำคัญหรือKeyword,การหาค้นหาจากส่วนที่ใช้อธิบายหรือบอกลักษณะSite

เว็บไซต์Serach engineที่เป็นที่นิยม : Google เริ่มก่อตั้งเมื่อมกราคม      พ.ศ.2539 เริ่มต้นการใช้งานเว็บไซต์โดยให้พิมพ์URL http:/www.google.com ที่ช่องaddress ,Yahoo! http:/www.Yahoo.com  จุดหนึ่งที่ทำให้โดดเด่นเป็นพิเศษก็คือการแบ่งเว็บไซต์ที่เก็บในฐานข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่และยังมีการโยงใยระหว่างกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่มเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ , Bing เป็น Search Engine ตัวใหม่ล่าสุดของค่าย Microsoft ที่มี Search Engine ต่างๆ ได้แก่MSN Search  Live Search  Bing  เริ่มให้บริการ Version ทดลองอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 ซึ่งจากสถิติการสำรวจการใช้ของชาวอเมริกันพบว่า ช่วงเปิดตัว Bing มีส่วนแบ่งแซงหน้า Yahooที่มีส่วนแบ่งเป็นอันดับสองรองจาก Google

ประโยชน์Serach engine

1.ค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ทำการค้นหาได้สะดวก รวดเร็ว

2.สามารถค้นหาแบบเฉพาะเจาะจงได้

3.สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทางที่มีการจัดทำไว้ให้ได้

4.มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล

5.รองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา

2.การสื่อสารรับส่งข้อมูลผ่าน E-mail

  ชนิดของการรับส่งE-mail : รับส่งโดยใช้ e-mail โดยเฉพาะเช่น  Outlook Express,รับส่งโดยผ่านเว็บไซต์ เช่น Yahoo.com  Gmail.com, รับส่งโดยผ่านเว็บบราว์เซอร์

3.ทำความรู้จักกับภาษา HTML

     เป็นภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง มีโครงสร้างการเขียนโดยใช้ Tag ต้นกำเนิดของภาษา HTML เกิดจากเมื่อปีพ.ศ.1989  ภาษา HTML เป็นภาษาที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานในการเขียนโฮมเพจ

เครื่องมือสำหรับแก้ไขโค้ด (HTML)


1.Eclipse: สามารถเพิ่มความสามารถให้กับโปรแกรม

2.Aptana Studio: มีรูปแบบสวยงาม ไม่ซับซ้อนรองรับภาษา

3.Editplus: สามารถรองรับไฟล์ได้หลายประเภท

4.Dreamweaver: ใช้สำหรับพัฒนาเว็บไซต์


บทที่6 การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าด้วยกัน อินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2512โดยองค์การทหาร ประเทศไทยเราเริ่มมีการใช้งานครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2532

คำศัพท์เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต
1.Website จำนวนไฟล์หรือจำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บไซต์

2.WebPages หน้าในแต่ละหน้ากลายเป็นเว็บไซต์

3.Homepage หน้าแรกของเว็บเพจ

4.Web Browser ใช้สำหรับเป็นประตูสู่โลก www

5.Webmaster บุคคลที่ทำหน้าที่วางแผนดูแลบริหารจัดการเว็บไซต์

6.ISP ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

7.www.อยู่ในรูปเอกสารแบบ Hypertext ซึ่งภายในเอกสารจะมีจุดเชื่อมโยง Link

8.HTTP เป็นโปรโตคอลสำหรับเปิดดูข้อมูล

9.HTML ภาษามาตรฐานที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ

10.TCP/IP เป็นระบบโปรโตคอลการสื่อสารพื้นฐานของระบบอินเทอร์เน็ต

11.WAP เป็นมาตรฐานเปิดของระบบการสื่อสารด้านข้อมูลไร้สาย

12.WiFi เครือข่ายท้องถิ่นไร้สาย

13.GPRS เป็นบริการด้านสื่อสารไร้สายแบบแพคเก็ตและการเชื่อมต่อเนื่องกับอินเทอร์เน็ต

14.EDGE เป็นเทคโนโลยีมือถือที่พัฒนาขึ้นจาก GPRS ใช้รับส่งข้อมูล

15.เทคโนโลยี3G เป็นเทคโนโลยีของโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 
1.การเชื่อมต่อแบบส่วนบุคคลเชื่อมต่อผ่านสายคู่โทรศัพท์

2.การเชื่อมต่อแบบองค์กรเป็นการเชื่อมต่อแบบถาวรตลอดเวลากับผู้ให้บริการด้วยสายเช่า
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต

1 สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล

2.ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่

3.นักศึกษาในมหาวิทยาลัยสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่นๆเพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้

4.ค้นหาข้อมูลต่างๆเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ

5.สามารถซื้อขายสินค้าผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

6.ผู้ใช้ที่เป็นบริษัทหรือองค์กรต่างๆก็สามารถเปิดให้บริการและสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้

7.การพักผ่อนหย่อนใจ

8.สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้

9.สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่และเก่ามาดูได้

โทษของอินเทอร์เน็ต
1.โรคติดอินเทอร์เน็ต เช่น หมกมุ่น รู้สึกหงุดหงิดเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง

2.เรื่องอนาจารผิดศีลธรรมเพราะอินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งเผยแพร่ต่างๆ


แนวทางการแก้ปัญหาและป้องกันการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม
1.ไม่บอกข้อมูลส่วนตัวเช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ชื่อโรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต

2.หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆบนอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะหยาบคายหรือไม่เหมาะสมควรแจ้งใหผู้ปกครองทราบทันที่


3.ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน

4.ไม่ส่งรูปหรือสิ่งใดๆ ให้บุคคลที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน

5.ไม่ตอบคำถามหรือต่อความกับผู้ที่สื่อข้อความหยาบคายและต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที่
ควรเคารพต่อข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้กับผู้ปกครอง เช่น กำหนดระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ต

บทที่5 การสื่อสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

บทบาท
     การติดต่อสื่อสารเป็นการพูดคุยหรือส่งข่าวกันของมนุษย์ ซึ่งอาจเป็นการแสดงออกด้วยท่าทาง การใช้ภาษาพูดหรือผ่านทางตัวอักษร โดยส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารในระยะใกล้ ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นมีการพัฒนาอุปการณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ในการสื่อสาร ทำให้สามารถสื่อสารได้ในระยะไกลและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่น โทรเลข โทรศัพท์ และโทรสาร

ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
  1.การจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสารได้รวดเร็ว

  2.ความถูกต้องของข้อมูล

  3.ความเร็วในการทำงาน

  4.ต้นทุนประหยัด

องค์ประกอบหลักของระบบสื่อสารข้อมูล
  1.ผู้ส่ง (Sender) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมูลมีหน้าที่เตรียมสร้างข้อมูล เช่น ผู้พูด โทรทัศน์

  2.ผู้รับ (Receiver) เป็นปลายทางการสื่อสาร เช่น ผู้ฟัง

  3.สื่อกลาง (Medium) เป็นเส้นทางการสื่อสารเพื่อนำข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง

  4.ข้อมูลข่าวสาร (Message) เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง ตัวเลข วีดีโอ

  5.โปรโตคอล (Protocol) คือ วิธีการหรือกฏระเบียบที่ใช้ในการสื่อสาร

วิธีการถ่ายโอนข้อมูล มี2แบบ :
  1.การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน คือ การส่งข้อมูลครั้งละหลายๆบิตพร้อมกัน  
  2.การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม เป็นการส่งข้อมูลครั้งละ 1 บิต มี2ประเภท (การส่งข้อมูลแบบอะซิงโครนัสและการส่งข้อมูลแบบซิงโครนัส)

การติดต่อแบบอนุกรมตามรูปแบบการรับส่งได้3แบบ: สื่อสารทางเดียว(Simplex) แบบกึ่งสองทิศทาง(half duplex)  แบบสองทิศทาง(Full Duplex)

ประเภทของสัญญาณ
  1.สัญญาณแบบดิจิทัล แบ่งเป็นช่วงๆอย่างไม่ต่อเนื่อง
  2.สัญญาณอนาล็อก มีความต่อเนื่องของสัญญาณ
สื่อกลางในการสื่อสาร ข้อมูล ตัวกลางหรือสายเชื่อมโยงเป็นส่วนที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อ ประเภทมีสาย (1.สายคู่บิดเกลียว หัวเชื่อมต่อ 2.สายโคแอคเชียล นิยมใช้เป็นช่องทางสื่อสารสัญณาณแอนาล็อกเชื่อมโยงผ่านใต้ทะเล 3.เส้นใยนำแสง มีความปลอดภัยในการส่งสูง) ประเภทไร้สาย (1.แบบ Directionalเป็นแบบกำหนดทิศทางของสัญญาณ 2.แบบ Omnidirectionalเป็นแบบกระจายสํญญาณ)

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ การนำเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องมาต่อเชื่อมโยงให้มีการสื่อสารข้อมูลระหว่างกันเพื่อให้เพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้นเพิ่มการใช้งานด้านต่างๆ  มี3ประเภท
1.LAN เครื่อข่ายคอมพิวเตอร์แบบท้องถิ่น  2.MAN เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ครอลคลุมพื้นที่ทั้งตำบล อำเภอ  3.WAN เครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ครอบคลุมได้ทั้งประเทศ
โพรโทรคอล คือข้อกำหนดหรือข้อตกลงที่ใช้ควบคุมการสื่อสารข้อมูลในเครือข่าย
รูปร่างเครือข่าย  การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์สองเครื่อง  การเชื่อมต่อแบบหลายจุด โดยมีจุดเชื่อมแยกออก 1.โทโปโลยีแบบ BUS   2.โทโปโลยีแบบ RING

   3.โทโปโลยีแบบ STAR
อุปกรณ์เครือข่าย (การ์ดเครือข่าย, ฮับ คืออุปกรณ์รวมสัญญาณ, สวิตซ์ คืออุปกรณ์รวมสัญญาณ , เกตเวย์ ,บริดจ์ คืออุปกรณ์ที่เหมาะกับเครือข่ายหลายๆกลุ่มที่เชื่อมต่อกัน, รีพีตเตอร์ คืออุปกรณ์ทวนสัญญาณ,โมเด็ม คืออุปกรณ์แปลงสัญญาณ, เราเตอร์, Access point อุปกรณ์จุดเข้าใช้งานเครือข่ายไร้สาย, ADSL Modem router , Air Card)